นิทานตอน3
กวางกับเพื่อน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกวางตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง มันมีเพื่อนสนิทอยู่สองตัว ได้แก่ สุนัขจิ้งจอกและนกกระเรียน
วันหนึ่ง ขณะที่กวางกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า มันก็ได้ยินเสียงสุนัขจิ้งจอกร้องโหยหวน มันจึงรีบวิ่งไปหาเพื่อนของมัน และพบว่าสุนัขจิ้งจอกกำลังติดอยู่ในหลุมพราง
กวางรีบช่วยสุนัขจิ้งจอกออกมาจากหลุมพราง และสุนัขจิ้งจอกก็ขอบคุณกวางเป็นอย่างมาก ต่อมาไม่นาน กวางก็ได้ยินเสียงนกกระเรียนร้องโหยหวน มันจึงรีบวิ่งไปหาเพื่อนของมัน และพบว่านกกระเรียนกำลังติดอยู่ในกับดัก
กวางรีบช่วยนกกระเรียนออกมาจากกับดัก และนกกระเรียนก็ขอบคุณกวางเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นาน นักล่าก็เข้ามาในป่า และไล่ล่ากวาง กวางวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถหนีนักล่าได้
ในขณะที่กวางกำลังจะสิ้นหวัง สุนัขจิ้งจอกและนกกระเรียนก็ปรากฏตัวขึ้น สุนัขจิ้งจอกใช้หางของมันล่อให้นักล่าวิ่งตามไปทางอื่น ส่วนนกกระเรียนก็บินไปเกาะบนต้นไม้ และส่งเสียงร้องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนักล่า
ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆ กวางจึงสามารถหนีจากนักล่าได้สำเร็จ และมันก็ได้เรียนรู้ว่าเพื่อนแท้คือคนที่อยู่เคียงข้างเราในยามยากลำบาก
-----
นิทานเรื่องพลายใหญ่
ในป่าอันกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีช้างตัวหนึ่งชื่อ "เจ้าใหญ่" เจ้าใหญ่เป็นช้างที่แข็งแรงและฉลาด แต่ก็ค่อนข้างดื้อรั้นและชอบทำตามใจตนเอง
วันหนึ่ง เจ้าใหญ่เดินเข้าไปในป่าลึกเพื่อหาอาหาร มันกินใบไม้ ผลไม้ และพืชต่างๆ จนอิ่มท้อง จากนั้นมันก็เอนตัวลงนอนใต้ต้นไม้ใหญ่และหลับไป
ขณะที่เจ้าใหญ่กำลังหลับอยู่นั้น มีกลุ่มนายพรานเดินเข้ามาในป่า พวกเขามองหาสัตว์เพื่อล่า แต่ก็ไม่พบอะไรเลย พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะล่าช้าง
นายพรานเล็งปืนไปที่เจ้าใหญ่ แต่ก่อนที่พวกเขาจะยิง เจ้าใหญ่ก็ตื่นขึ้นและเห็นพวกนายพราน มันตกใจมากและรีบลุกขึ้นวิ่งหนี
นายพรานวิ่งไล่ตามเจ้าใหญ่ แต่เจ้าใหญ่ก็วิ่งได้เร็วกว่า พวกเขาจึงวิ่งตามไม่ทัน ในที่สุด เจ้าใหญ่ก็หนีเข้าไปในป่าลึกและหายไป
นายพรานโกรธมากที่ไม่สามารถล่าช้างได้ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเผาป่าเพื่อไล่เจ้าใหญ่และสัตว์อื่นๆ ออกมา
ไฟไหม้ป่าอย่างรวดเร็วและรุนแรง สัตว์ต่างๆ พากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด เจ้าใหญ่ก็วิ่งหนีเช่นกัน แต่ไฟก็ลามมาเร็วกว่าที่มันจะวิ่งหนีได้
เจ้าใหญ่ถูกไฟไหม้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส มันร้องด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ในขณะที่มันกำลังจะสิ้นใจ เจ้าใหญ่ก็ได้ยินเสียงของนกตัวหนึ่ง
นกตัวนั้นบินมาเกาะที่กิ่งไม้ข้างๆ เจ้าใหญ่ มันร้องเพลงที่ไพเราะและเศร้าสร้อย เจ้าใหญ่ฟังเพลงของนกและรู้สึกสงบลง มันหลับตาลงและสิ้นใจไปอย่างสงบ
ไฟไหม้ป่าไปหลายวันจนกระทั่งฝนตกลงมาดับไฟ ป่าถูกทำลายไปเป็นบริเวณกว้าง และสัตว์ต่างๆ ก็ตายไปเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้น ป่าก็ค่อยๆ ฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้นไม้ที่เคยสูงใหญ่ก็ถูกไฟเผาจนเหลือแต่ตอ สัตว์ที่เคยอาศัยอยู่ในป่าก็หายไปเกือบหมด
นิทานเรื่องนี้สอนให้เราเห็นว่า การทำลายสิ่งแวดล้อมอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้ายได้ และเราควรดูแลและปกป้องธรรมชาติของเราให้ดีที่สุด
-----
เสือดำกับเด็กหญิง
ในป่าลึกอันกว้างใหญ่ มีเสือดำตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันเป็นเสือที่สง่างามและทรงพลัง แต่ก็โดดเดี่ยวและหิวโหย
วันหนึ่ง เสือดำออกล่าเหยื่อ มันเดินเตร่ไปทั่วป่า แต่ก็ไม่พบอะไรเลย มันเริ่มรู้สึกสิ้นหวังและหิวโหยมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่เสือดำกำลังจะหมดหวัง มันก็ได้ยินเสียงร้องไห้ เสือดำเดินตามเสียงไปและพบเด็กหญิงตัวเล็กๆ นั่งร้องไห้อยู่ข้างก้อนหิน
"เจ้าเป็นอะไร" เสือดำถาม
"ฉันหลงทาง" เด็กหญิงตอบ "ฉันหาทางกลับบ้านไม่เจอ"
เสือดำรู้สึกสงสารเด็กหญิง มันจึงตัดสินใจช่วยเหลือเธอ
"ขึ้นหลังฉันมา ฉันจะพาเจ้ากลับบ้าน" เสือดำกล่าว
เด็กหญิงปีนขึ้นหลังเสือดำและเสือดำก็พาเธอเดินไปตามป่า
หลังจากเดินไปได้สักพัก เสือดำก็พาเด็กหญิงมาถึงหมู่บ้านของเธอ
"นี่คือบ้านของเจ้า" เสือดำกล่าว
"ขอบคุณมาก" เด็กหญิงกล่าว "ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนเจ้าอย่างไร"
"ไม่เป็นไร" เสือดำกล่าว "แค่เจ้าปลอดภัย ฉันก็มีความสุขแล้ว"
เด็กหญิงโบกมือลาเสือดำและวิ่งเข้าบ้านไป เสือดำมองตามเธอไปด้วยความสุขใจ มันรู้ว่ามันได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เสือดำและเด็กหญิงก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขามักจะพบกันในป่าและพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
เสือดำสอนให้เด็กหญิงรู้จักป่าและสัตว์ต่างๆ ในป่า ส่วนเด็กหญิงก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านและผู้คนให้เสือดำฟัง
มิตรภาพของพวกเขากินเวลายาวนานหลายปี และพวกเขาก็มีความสุขที่ได้มีกันและกัน
-----
นกอินทรีกับเหยี่ยวแดง
ในป่าอันกว้างใหญ่ มีนกอินทรีตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันเป็นนกที่สง่างามและทรงพลัง แต่ก็โดดเดี่ยวและหิวโหย
วันหนึ่ง นกอินทรีออกล่าเหยื่อ มันบินไปทั่วป่า แต่ก็ไม่พบอะไรเลย มันเริ่มรู้สึกสิ้นหวังและหิวโหยมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่นกอินทรีกำลังจะหมดหวัง มันก็ได้ยินเสียงร้องของเหยี่ยวแดงตัวหนึ่ง นกอินทรีบินตามเสียงไปและพบเหยี่ยวแดงตัวหนึ่งกำลังต่อสู้กับงูเห่า
นกอินทรีรีบเข้าไปช่วยเหยี่ยวแดง มันโจมตีงูเห่าและฆ่ามันได้สำเร็จ เหยี่ยวแดงรอดชีวิตและรู้สึกขอบคุณนกอินทรีมาก
นกอินทรีและเหยี่ยวแดงกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขามักจะล่าเหยื่อด้วยกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
วันหนึ่ง พวกเขากำลังล่าเหยื่อในป่าเมื่อพวกเขาถูกโจมตีโดยกลุ่มนักล่า นักล่าพยายามจะยิงนกอินทรีและเหยี่ยวแดง แต่พวกเขาก็หนีไปได้
นกอินทรีและเหยี่ยวแดงบินไปยังยอดเขาและมองลงไปที่นักล่า พวกเขารู้สึกโกรธและหงุดหงิดที่นักล่าพยายามจะฆ่าพวกเขา
นกอินทรีและเหยี่ยวแดงตัดสินใจที่จะแก้แค้นนักล่า พวกเขาบินลงมาจากยอดเขาและโจมตีนักล่า นักล่าตกใจและวิ่งหนีไป
นกอินทรีและเหยี่ยวแดงไล่ตามนักล่าจนกระทั่งพวกเขาหนีไปได้ พวกเขารู้สึกภูมิใจในตัวเองที่สามารถแก้แค้นนักล่าได้
นกอินทรีและเหยี่ยวแดงยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขายังคงล่าเหยื่อด้วยกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พวกเขามีความสุขที่ได้มีกันและกัน
-----
อ้ายจำเรียนกับน้องชาย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีพี่น้องสองคนชื่อ อ้ายจำเรียน และ น้องบีม อ้ายจำเรียนเป็นพี่ชายคนโตที่ขยันและฉลาด ส่วนน้องบีมเป็นน้องชายคนเล็กที่เกียจคร้านและไม่ชอบเรียนหนังสือ
วันหนึ่ง พ่อของพวกเขาได้ป่วยหนักและต้องการเงินไปรักษาตัว อ้ายจำเรียนจึงตัดสินใจออกไปทำงานหาเงิน ส่วนน้องบีมก็อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ยอมช่วยเหลือพี่ชาย
อ้ายจำเรียนทำงานหนักทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ได้เงินมาไม่มากนัก ในขณะที่น้องบีมกลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยไม่ต้องทำงานใดๆ
วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้พบกับชายชราผู้หนึ่ง ชายชราเห็นว่าอ้ายจำเรียนเป็นคนขยัน จึงมอบถุงเงินให้หนึ่งถุง อ้ายจำเรียนดีใจมากและรีบนำเงินไปให้พ่อ
เมื่อพ่อของอ้ายจำเรียนได้รับเงิน ก็หายจากอาการป่วยเป็นปลิดทิ้ง ในขณะที่น้องบีมยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยไม่ต้องทำงานใดๆ
จากนั้นมา อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นคนร่ำรวยและมีฐานะดี ส่วนน้องบีมก็ยังคงเกียจคร้านและไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความขยันและความอดทนจะนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต
-----
Q12
อ้ายจำเรียนกับเมียแสนรัก
ในหมู่บ้านอันแสนสงบสุข มีชายหนุ่มรูปงามนามว่า อ้ายจำเรียน เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งหมู่บ้าน แต่หัวใจของเขากลับมอบให้กับสาวน้อยแสนหวานนามว่า น้องน้ำหวาน
น้องน้ำหวานเป็นหญิงสาวที่ทั้งสวยงามและอ่อนโยน เธอมีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหวานราวน้ำผึ้ง และรอยยิ้มที่สามารถละลายหัวใจของใครก็ตามที่ได้พบเห็น
วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนตัดสินใจไปสู่ขอ น้องน้ำหวาน จากบิดามารดาของเธอ บิดามารดาของน้องน้ำหวานยินดีเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขารู้ดีว่าอ้ายจำเรียนเป็นชายหนุ่มที่ซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง
พิธีแต่งงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในหมู่บ้าน มีชาวบ้านมาร่วมเป็นสักขีพยานในความรักของทั้งคู่ อ้ายจำเรียนและน้องน้ำหวานสวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์และแลกเปลี่ยนคำสาบานว่าจะรักและดูแลซึ่งกันและกันตลอดไป
หลังจากแต่งงาน ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พวกเขามีลูกชายและลูกสาวที่น่ารักสองคน อ้ายจำเรียนทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนน้องน้ำหวานก็ดูแลบ้านและลูกๆ ด้วยความรักและความเอาใจใส่
ปีแล้วปีเล่าผ่านไป อ้ายจำเรียนและน้องน้ำหวานยังคงรักกันอย่างเหนียวแน่น พวกเขาเป็นตัวอย่างของความรักที่แท้จริงและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน
-----
นิทานเรื่องน้องกรีนกับอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กสาวชื่อกรีนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง นางเป็นเด็กสาวที่สวยงามและมีน้ำใจ แต่โชคร้ายที่นางมีแม่เลี้ยงใจร้ายที่อิจฉาความงามของนาง
วันหนึ่ง แม่เลี้ยงของกรีนตัดสินใจกำจัดนาง นางล่อลวงกรีนให้เข้าไปในป่าและทิ้งนางไว้ที่นั่นตามลำพัง กรีนหลงทางและกลัวมาก นางเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงกระท่อมหลังเล็กๆ
กรีนเคาะประตูและมีชายชราใจดีออกมาเปิดประตู ชายชราต้อนรับกรีนเข้ามาในบ้านและให้อาหารและที่พักพิงนาง กรีนอาศัยอยู่กับชายชราเป็นเวลาหลายวัน และในช่วงเวลานั้น นางได้เรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและคาถาเวทมนตร์
วันหนึ่ง ชายชราบอกกับกรีนว่าถึงเวลาที่นางต้องกลับบ้านแล้ว กรีนขอบคุณชายชราสำหรับความเมตตาของเขาและออกเดินทางกลับหมู่บ้าน
เมื่อกรีนกลับถึงบ้าน นางพบว่าแม่เลี้ยงของนางได้แต่งงานใหม่กับชายหนุ่มรูปงามหล่อเหลามาก จนมีสาวๆทั่วไทยเข้ามาจีบแอบรักแอบชอบแบะมีสาวๆหลงกรี้ดๆใส่ หน้าเหมือนลูกครึ่งไทยเกาหลีชื่ออ้ายจำเรียน กรีนรู้สึกหึงหวงและโกรธมาก นางจึงใช้คาถาเวทมนตร์ที่นางได้เรียนรู้มาสาปแช่งอ้ายจำเรียน
คาถาของกรีนทำให้ผิวหนังของอ้ายจำเรียนกลายเป็นสีเขียว และนางก็เรียกเขาว่า "" อ้ายจำเรียนรู้สึกอับอายและโกรธมากที่ถูกสาปแช่งเช่นนี้
อ้ายจำเรียนพยายามหาทางถอนคำสาป แต่ไม่มีอะไรได้ผล ในที่สุด เขาก็ไปหาชายชราที่กรีนเคยอาศัยอยู่ ชายชราบอกกับอ้ายจำเรียนว่ามีเพียงกรีนนั้นที่สามารถถอนคำสาปได้
อ้ายจำเรียนจึงไปหากรีนและขอร้องให้นางถอนคำสาป กรีนเห็นใจอ้ายจำเรียนและตกลงที่จะถอนคำสาปให้ แต่ด้วยเงื่อนไขว่าอ้ายจำเรียนต้องแต่งงานกับนาง
อ้ายจำเรียนตกลงและกับกรีน กรีนก็ถอนคำสาปให้ ผิวหนังของอ้ายจำเรียนกลับมาเป็นสีปกติอีกครั้ง และทั้งสองก็แต่งงานกันอย่างมีความสุข จนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวความรักของอ้ายจำเรียนตอกสดๆกับน้องกรีน
-----
Q15
เรื่องราวความรักของอ้ายจำเรียนกับน้องชมพู่
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีหญิงสาวแสนสวยนามว่า ชมพู่ เธอเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ มากมาย แต่หัวใจของเธอได้มอบให้กับชายหนุ่มรูปงามนามว่า อ้ายจำเรียน
อ้ายจำเรียนเป็นชายหนุ่มขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ เขาทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวและหวังว่าสักวันจะได้แต่งงานกับชมพู่ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของชมพู่ไม่เห็นด้วยกับความรักของพวกเขา เพราะพวกเขาคิดว่าอ้ายจำเรียนยากจนเกินไปสำหรับลูกสาวของตน
วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังทำงานอยู่ในไร่ เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของชมพู่ เขาจึงรีบวิ่งไปหาเธอและพบว่าเธอถูกงูเห่ากัด อ้ายจำเรียนไม่ลังเลที่จะดูดพิษออกจากแผลของชมพู่แม้ว่าจะเสี่ยงชีวิตของตนเองก็ตาม
หลังจากนั้น ชมพู่ก็ฟื้นขึ้นมาและรู้สึกซาบซึ้งในความกล้าหาญของอ้ายจำเรียนมาก เธอตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเขาไม่ว่าพ่อแม่ของเธอจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ในที่สุด พ่อแม่ของชมพู่ก็ยอมรับอ้ายจำเรียนและให้พรแก่การแต่งงานของพวกเขา ชมพู่และอ้ายจำเรียนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกัน และความรักของพวกเขาก็เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจนถึงทุกวันนี้
-----
ความรักของอ้ายจำเรียนกับมาย
กาลครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อจำเรียน เขาเป็นคนขยันและซื่อสัตย์ เขารักมายด์ หญิงสาวที่สวยและฉลาด ทั้งสองตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็น
วันหนึ่ง จำเรียนสารภาพรักกับมายด์ เธอยิ้มและบอกว่าเธอก็รักเขาเช่นกัน พวกเขามีความสุขมากที่ได้พบกันและใช้เวลาร่วมกัน
แต่แล้ววันหนึ่ง พ่อของมายด์ก็ไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของพวกเขา เขาต้องการให้มายด์แต่งงานกับชายหนุ่มที่ร่ำรวยกว่าจำเรียน จำเรียนเสียใจมาก แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้
มายด์พยายามเกลี้ยกล่อมพ่อของเธอ แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง เธอจึงตัดสินใจหนีตามจำเรียน ทั้งสองหนีไปอยู่ด้วยกันในกระท่อมเล็กๆ ในป่า
พวกเขามีความสุขมากที่ได้อยู่ด้วยกัน แต่พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ตลอดไป ในที่สุด พวกเขาก็ถูกจับและถูกนำตัวกลับไปหาพ่อของมายด์
พ่อของมายด์โกรธมากที่มายด์หนีตามจำเรียน เขาขังเธอไว้ในห้องและไม่ให้เธอออกไปไหน จำเรียนพยายามช่วยมายด์ แต่เขาทำไม่ได้
จำเรียนเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยมายด์ได้ เขาตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย เขาเดินไปที่หน้าผาและกระโดดลงไป
มายด์ได้ยินข่าวการตายของจำเรียน เธอเสียใจมากที่เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตาย เธอตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตายเช่นกัน เธอเดินไปที่หน้าผาเดียวกับที่จำเรียนกระโดดลงไปและกระโดดลงไป
วิญญาณของจำเรียนและมายด์ได้พบกันในปรโลก พวกเขามีความสุขมากที่ได้พบกันอีกครั้ง พวกเขาสัญญากันว่าจะไม่ปล่อยให้ใครมาพรากพวกเขาจากกันอีก
-----
เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า
นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กเลี้ยงแกะที่เลี้ยงแกะของเจ้านายใกล้ป่าทึบ เขาพบว่าชีวิตในทุ่งหญ้าช่างน่าเบื่อและตัดสินใจที่จะทำให้ตัวเองสนุกโดยหลอกชาวบ้านให้คิดว่ามีหมาป่าอยู่ในบริเวณนั้น เขาทำเช่นนี้โดยตะโกนว่า "หมาป่า! หมาป่า!" และวิ่งไปทางหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านทิ้งงานและรีบไปที่ทุ่งหญ้าเพื่อช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็พบว่าเด็กชายหัวเราะคิกคักกับกลอุบายที่เขาเล่นกับพวกเขา เรื่องนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง และชาวบ้านก็เริ่มสงสัยในเสียงร้องของเด็กชาย เย็นวันหนึ่ง หมาป่าตัวจริงก็โจมตีแกะ และเด็กชายก็วิ่งไปทางหมู่บ้านพร้อมตะโกนว่า "หมาป่า! หมาป่า!" อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านไม่เชื่อเขาและไม่มาช่วย ทำให้แกะตายไปหลายตัว คติสอนใจของเรื่องนี้คือ "คนโกหกไม่น่าเชื่อแม้ว่าจะพูดความจริง
-----
Q19
อ้ายจำเรียนเมียมีชู้ ภาค1
กาลครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อจำเรียน เขาแต่งงานกับหญิงสาวชื่อมะลิ ทั้งสองรักกันมากและมีลูกด้วยกันสองคน
วันหนึ่ง มะลิบอกจำเรียนว่าเธอจะไปเยี่ยมแม่ของเธอในหมู่บ้านอื่น จำเรียนอนุญาตให้เธอไปและบอกให้เธอเดินทางอย่างปลอดภัย
มะลิไปเยี่ยมแม่ของเธอเป็นเวลาหลายเดือน จำเรียนคิดถึงเธอมากและรอคอยการกลับมาของเธอ
แต่แล้ววันหนึ่ง จำเรียนได้รับจดหมายจากมะลิ เธอเขียนบอกเขาว่าเธอจะไม่กลับมาหาเขาอีกแล้ว เธอบอกว่าเธอได้พบชายคนใหม่และตกหลุมรักเขาแล้ว
จำเรียนเสียใจมากที่ได้ยินข่าวนี้ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เขาคิดถึงมะลิและลูกๆ มาก
จำเรียนตัดสินใจไปตามหามะลิ เขาเดินทางไปยังหมู่บ้านที่แม่ของเธออาศัยอยู่ แต่เขาไม่พบเธอที่นั่น เขาถามชาวบ้าน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
จำเรียนกลับบ้านด้วยความเศร้าโศก เขาคิดถึงมะลิทุกวัน เขาไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนหรือเธอเป็นอย่างไร
หลายปีผ่านไป จำเรียนก็ยังคงคิดถึงมะลิอยู่ วันหนึ่ง เขาได้รับจดหมายจากเธอ เธอเขียนบอกเขาว่าเธอเสียใจในสิ่งที่เธอทำ เธอบอกว่าเธอคิดถึงเขาและลูกๆ มาก
จำเรียนดีใจมากที่ได้ยินจากมะลิ เขาเขียนจดหมายตอบกลับเธอและบอกเธอว่าเขายังรักเธออยู่
มะลิกลับมาหาจำเรียนและลูกๆ ของพวกเขา พวกเขามีความสุขมากที่ได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง จำเรียนให้อภัยมะลิในสิ่งที่เธอทำ และพวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q21
อ้ายจำเรียนเมียมีชู้ภาค2
ในหมู่บ้านอันแสนสงบแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อจำเรียน เขาแต่งงานกับหญิงสาวแสนสวยนามว่ามะลิ ทั้งสองรักกันมากและเฝ้ารอคอยการถือกำเนิดของลูกน้อย
วันหนึ่ง มะลิบอกกับจำเรียนว่าเธอต้องเดินทางไปเยี่ยมมารดาที่หมู่บ้านอื่น จำเรียนอนุญาตให้เธอไปและกำชับให้เดินทางอย่างปลอดภัย
มะลิเดินทางไปเยี่ยมมารดาเป็นเวลาหลายเดือน จำเรียนเฝ้าคิดถึงเธอทุกวันและเฝ้ารอคอยการกลับมาของเธอ
แต่แล้ววันหนึ่ง จำเรียนได้รับจดหมายจากมะลิ เธอเขียนบอกเขาว่าเธอจะไม่กลับมาหาเขาอีกแล้ว เธอบอกว่าเธอได้พบชายคนใหม่และตกหลุมรักเขาแล้ว
จำเรียนเสียใจมากที่ได้ยินข่าวนี้ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เขาคิดถึงมะลิและลูกๆ มาก
จำเรียนตัดสินใจไปตามหามะลิ เขาเดินทางไปยังหมู่บ้านที่แม่ของเธออาศัยอยู่ แต่เขาไม่พบเธอที่นั่น เขาถามชาวบ้าน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
จำเรียนกลับบ้านด้วยความเศร้าโศก เขาคิดถึงมะลิทุกวัน เขาไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนหรือเธอเป็นอย่างไร
หลายปีผ่านไป จำเรียนก็ยังคงคิดถึงมะลิอยู่ วันหนึ่ง เขาได้รับจดหมายจากเธอ เธอเขียนบอกเขาว่าเธอเสียใจในสิ่งที่เธอทำ เธอบอกว่าเธอคิดถึงเขาและลูกๆ มาก
จำเรียนดีใจมากที่ได้ยินจากมะลิ เขาเขียนจดหมายตอบกลับเธอและบอกเธอว่าเขายังรักเธออยู่
มะลิกลับมาหาจำเรียนและลูกๆ ของพวกเขา พวกเขามีความสุขมากที่ได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง จำเรียนให้อภัยมะลิในสิ่งที่เธอทำ และพวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
ในยามค่ำคืนที่เงียบสงบ จำเรียนมักจะนอนหลับฝันถึงมะลิ เขานึกภาพเธออยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง และได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ เขาจะตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ รู้ว่าแม้เธอจะไม่อยู่ที่นี่ แต่ความรักของเธอยังคงอยู่กับเขาเสมอ
-----
อ้ายจำเรียนตอกสดๆเศรษฐีดูไบ
ในดินแดนแห่งทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ไกลโพ้นจากบ้านเกิดเมืองนอนของอ้ายจำเรียน ชายหนุ่มผู้ใฝ่ฝันจากแดนอีสาน ได้เดินทางมาถึงนครดูไบ เมืองแห่งความหรูหราและความมั่งคั่ง
อ้ายจำเรียนทำงานอย่างหนักในฐานะคนงานก่อสร้าง ท่ามกลางแดดแผดเผาและแรงงานอันหนักหน่วง แต่ในใจของเขายังคงมีความฝันอันแรงกล้าที่จะสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับตัวเองและครอบครัวที่บ้านเกิด
วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังทำงานอยู่ที่ตึกสูงแห่งหนึ่ง เขาก็ได้พบกับเศรษฐีหนุ่มชาวดูไบผู้ใจบุญ เศรษฐีหนุ่มสังเกตเห็นความขยันหมั่นเพียรและความมุ่งมั่นในดวงตาของอ้ายจำเรียน จึงได้เข้ามาสอบถามและรับฟังเรื่องราวชีวิตของเขา
เศรษฐีหนุ่มรู้สึกประทับใจในความตั้งใจของอ้ายจำเรียน จึงได้เสนอความช่วยเหลือ โดยมอบทุนการศึกษาให้เขาได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของดูไบ อ้ายจำเรียนดีใจเป็นอย่างมาก เขาตั้งใจเรียนอย่างหนักและจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยม
หลังจากจบการศึกษา อ้ายจำเรียนได้ทำงานในบริษัทชั้นนำของดูไบ ด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมา ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในหน้าที่การงาน
อ้ายจำเรียนไม่เคยลืมบุญคุณของเศรษฐีหนุ่มชาวดูไบ เขาใช้ความมั่งคั่งของตัวเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอีสานบ้านเกิดของเขา เขาสร้างโรงเรียน มอบทุนการศึกษา และพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ชื่อเสียงของอ้ายจำเรียนในฐานะเศรษฐีใจบุญแพร่กระจายไปทั่วทั้งดูไบและประเทศไทย เขาได้รับการยกย่องจากผู้คนมากมาย และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาวที่ใฝ่ฝันจะประสบความสำเร็จในชีวิต
และนั่นคือเรื่องราวของอ้ายจำเรียน เศรษฐีดูไบผู้ไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเอง เขาใช้ความมั่งคั่งและความสำเร็จของตัวเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและสร้างความแตกต่างให้กับโลก
-----
อ้ายจำเรียนตอกสดๆพบรักต่างแดน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชาวไทยชื่อจำเรียน เขาเป็นคนขยันและฉลาด แต่ยากจนมาก วันหนึ่งเขาตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศเพื่อหาโอกาสที่ดีกว่า
จำเรียนเดินทางไปหลายประเทศและทำงานหลายอย่าง จนกระทั่งมาถึงประเทศอังกฤษ เขาได้งานเป็นคนรับใช้ในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลขุนนาง
วันหนึ่ง ขณะที่จำเรียนกำลังทำความสะอาดห้องนอนของท่านหญิง เขาได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ มาจากห้องข้างๆ เขาแอบมองเข้าไปและเห็นท่านหญิงสาวสวยคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง
จำเรียนเข้าไปถามท่านหญิงว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านหญิงเล่าให้เขาฟังว่า เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับชายที่เธอไม่รัก เธอจึงหนีออกมาจากบ้านและมาหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้
จำเรียนสงสารท่านหญิงมาก เขาตัดสินใจช่วยเธอหนีไปจากบ้านหลังนี้ เขาพาเธอไปซ่อนตัวในกระท่อมหลังเล็กๆ ในป่าและดูแลเธอเป็นอย่างดี
ทั้งสองตกหลุมรักกันในที่สุด และตัดสินใจแต่งงานกัน พวกเขามีความสุขมากและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในกระท่อมหลังเล็กๆ ของพวกเขา
-----
Q24
Q23